เกิดเป็นชายชาตรีแต่ดันนกเขาไม่ขันเมื่อถึงเวลาต้องการใช้ นับเป็นเรื่องที่ดูน่าอายในความรู้สึกหนุ่ม ๆ ทั้งหลาย แต่ว่าอาการ สมรรถภาพทางเพศเสื่อม นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร เป็นปัญหามากขนาดไหน แล้วมีทางแก้ไขหรือไม่ เรื่องนี้มีคำตอบ!
การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศคืออะไร
ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศในเพศชายในทางการแพทย์คือภาวะที่อวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัวได้อย่างเพียงพอ หรือไม่สามารถคงการแข็งตัวไว้ได้นานขณะมีเพศสัมพันธ์ จนถึงไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์จนเสร็จกิจได้ แม้จะไม่มีความอันตรายมากเท่าใดนัก แต่ก็ทำให้เกิดปัญหาหยุมหยิมได้ เช่น ความสุขทางเพศของคู่รัก หรือความรู้สึกไม่มั่นใจของฝ่ายชาย
สาเหตุของการทำให้ สมรรถภาพทางเพศเสื่อม
มีสาเหตุหลัก ๆ 4 ประการดังต่อไปนี้
1.การที่เลือดไปเลี้ยงอวัยวะเพศได้ไม่เพียงพอ
2.ความผิดปกติที่ระบบประสาท
3.ความผิดปกติของภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย
4.ความผิดปกติของภาวะทางจิตใจ
ซึ่งสาเหตุต่าง ๆ เหล่านี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะในเรื่องของอายุที่ทำให้มีความเสี่ยงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเมื่ออายุเพิ่มขึ้นโอกาสที่จะเกิดภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย จากสถิติพบว่าในผู้ชายอายุต่ำกว่า 40 ปี มีปัญหาสมรรถภาพทางเพศเสื่อมประมาณ 5 % ต่างจากผู้ชายที่อายุมากกว่า 40 ปี พบว่ามีปัญหาสมรรถภาพทางเพศเสื่อมถึง 50 % เลยทีเดียว
แม้แต่การเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือโรคเรื้อรังก็ทำให้เสี่ยงสมรรถภาพทางเพศเสื่อมได้ด้วยเช่นกัน เช่น ผู้ที่มีโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง ผู้ที่เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน เป็นต้น
นอกจากนี้ผู้ที่เคยได้รับการผ่าตัดมาก่อน ผู้ที่ต้องกินยาบางชนิด ผู้ที่มีพฤติกรรมในการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือไม่ค่อยออกกำลังกายเองก็เสี่ยงทำให้สมรรถภาพทางเพศหย่อนลงเช่นกัน
การรักษาภาวะสมรรถภาพทางเพศเสื่อม
การรักษามีทั้งแบบไม่ใช้ยาและแบบที่ต้องใช้ยาหรือใช้อุปกรณ์ช่วย ได้แก่
1.การใช้ยากลุ่มยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ phosphodiesterase type 5 จะเป็นทางเลือกแรกในการรักษาผู้ที่ไม่มีข้อห้ามใช้ หากใช้แล้วจะมีอาการข้างเคียงที่พบบ่อย ได้แก่ ปวดศีรษะ การมองเห็นผิดปกติ อาการร้อนวูบวาบ และปวดเมื่อยตามตัว
2.การรักษาโดยการใช้ยาฉีด เป็นการใช้ยาฉีดเข้าไปในอวัยวะเพศโดยตรงก่อนมีเพศสัมพันธ์ 5 – 10 นาที มีประสิทธิภาพประมาณ 70 % เป็นกลุ่มยาจำพวก prostaglandin E1 ซึ่งสามารถทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งวิธีการใช้ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ไม่แนะนำให้ซื้อมาใช้และฉีดโดยไม่ปรึกษาแพทย์ก่อน
3.การใช้กระบอกสุญญากาศ เป็นการใช้กระบอกสุญญากาศครอบที่อวัยวะเพศ หลังจากนั้นก็สูบอากาศออกจากท่อ ทำให้เลือดเข้าไปในอวัยวะเพศจนอวัยวะเพศแข็งตัวได้ดี หลังจากนั้นจึงใช้ยางรัดเพื่อไม่ให้เลือดไหลออก
4.การใช้คลื่นเสียงความถี่ต่ำกระแทกในเนื้อเยื่อของอวัยวะเพศ เป็นเทคโนโลยีและทางเลือกใหม่ที่ช่วยให้เกิดการสร้างเส้นเลือดใหม่ขึ้นในอวัยวะเพศ ทำให้เกิดการฟื้นฟูและรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ วิธีการใช้คือ ใช้คลื่นเสียงความถี่ต่ำแบบแรงกระแทกจากภายนอกไปบนอวัยวะเพศ โดยต้องให้ได้รับการรักษาดังกล่าว 1 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นเวลาติดต่อกัน 5 สัปดาห์ จะพบว่ามีการสร้างเส้นเลือดใหม่ขึ้นในอวัยวะเพศ ทำให้เกิดการแข็งตัวของอวัยวะเพศได้ดีขึ้น
5.การรักษาแบบที่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วย โดยต้องผ่าตัดใส่แกนองคชาตเทียมเข้าไปเสมือนการใส่ขาเทียมเพื่อให้สามารถกลับมาเดินได้ เป็นทางเลือกสุดท้ายในการรักษาผู้ป่วยหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
การป้องกันไม่ให้สมรรถภาพทางเพศเสื่อม
หากคุณผู้ชายไม่อยากให้นกเขาไม่ขันก่อนวัยอันควรก็ต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรงทั้งทางกายและใจ วิธีง่าย ๆ ก็คือการพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์จัด ๆ ฯลฯ โดยรวม ๆ แล้วคือการดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีทั้งภายนอกและภายในนั่นเอง จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าหากเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และเลือกมีพฤติกรรมที่ส่งผลดีต่อสุขภาพก็จะทำให้โรคภัยต่าง ๆ ไม่เข้ามาย่างกรายได้ง่าย ๆ คุณผู้ชายจึงควรหันมาใส่ใจในเรื่องนี้กันให้มากขึ้น
หากคุณผู้ชายไม่อยากหมดความมั่นใจเพราะปัญหา สมรรถภาพทางเพศเสื่อม และต้องการให้การครองคู่มีความสุขในทุก ๆ รูปแบบก็ควรจะดูแลตัวเองอยู่สม่ำเสมอ แม้ไม่ใช่โรคที่น่าอันตรายแต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้สบายใจได้ ดังนั้นคุณผู้ชายควรหันมาดูแลตัวเองนับตั้งแต่วันนี้เพื่อความฟิตปั๋งยันวัยชรากันดีกว่า
อ่านบทความ ผู้ชาย ฉีดโบท็อกซ์ ได้หรือไม่ ผลลัพธ์อาจทำให้คุณคาดไม่ถึง
เครดิตรูปภาพทั้งหมด : www.pexels.com