ไม่เพียงเฉพาะผู้หญิงเท่านั้นที่ประสบกับปัญหาสิวขึ้นบนใบหน้า ผู้ชายเองก็มีปัญหาผิวหน้าที่ต่าง ๆ กันไป แล้วสำหรับคนที่เป็นสิวเขาใช้ ยาแต้มสิว ยี่ห้ออะไรกันบ้างนั้น วันนี้คุณผู้ชายตามมาดูกันเลย
Benzac
สำหรับยาแต้มสิวตัวนี้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม มีส่วนผสมหลัก ๆ คือ Benzoyl Peroxide ที่โดดเด่นในเรื่องของการฆ่าเชื้อแบคทีเรียถึงขั้นได้รับฉายาว่าเปรียบเสมือนนักรบที่แกร่งกล้าคนหนึ่ง มีฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิวที่ทับถม สามารถลดการอักเสบได้เล็กน้อย เป็นยาแต้มสิวที่ขึ้นชื่อเพราะสามารถเลือกระดับความเข้มข้นได้ มีทั้งแบบ 2.5% กับ 5% ซึ่งให้ผลการฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ถึง 90 – 100% แต่ก็มีข้อควรระวังในการใช้เพราะ Benzac ค่อนข้างระคายเคืองมาก ๆ เนื่องจากมีส่วนผสมที่ออกฤทธิ์แรงจึงทำให้เห็นผลในการรักษาสิวได้ไว ดังนั้นผู้ชายที่เริ่มใช้และยังใช้ไม่เป็นให้ใช้ยาแต้มสิวที่ระดับความเข้มข้น 2.5% ก่อน โดยแต้มบริเวณที่เป็นสิวทิ้งไว้ไม่เกิน 5 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดหรือโฟมล้างหน้า โดยสลับใช้วันเว้นวันหรือสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้งเพื่อให้ผิวเริ่มปรับสภาพให้เข้ากับตัวยา แล้วหลังจากนั้นจึงสามารถทาทิ้งไว้ได้นานขึ้น หรืออาจปรับไปที่ Benzac ระดับความเข้มข้น 5% ได้เลย
Retacnyl
ยาแต้มสิวยี่ห้อนี้มี Tretinoin ที่เปรียบเสมือนหัวหน้าของอนุพันธ์วิตามินเอ ออกฤทธิ์ต่อการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวหนังทำให้นำมาใช้รักษาสิวได้ โดยจะช่วยลดจำนวนและความรุนแรงของสิวลง และลดรอยต่าง ๆ ที่เกิดจากสิวอย่างครบเครื่อง สำหรับผู้ชายคนไหนที่สนใจอยากลองใช้ยาแต้มสิวยี่ห้อนี้ให้บีบในปริมาณเท่าเม็ดถั่วเหลืองแล้วทาให้ทั่วใบหน้า โดยจะต้องใช้ก่อนนอนเท่านั้นเพราะมีส่วนผสมที่ไม่ค่อยถูกกับแสง ซึ่งนักวิจัยได้แนะนำว่าให้ใช้ทาเพียงวันเว้นวันหรืออาทิตย์ละ 2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว ข้อควรระวังในการใช้ยาแต้มสิวยี่ห้อนี้ไม่ต่างจากยาแต้มสิวตัวอื่น ๆ ในเรื่องที่อาจจะส่งผลให้ระคายเคืองผิวหนังได้ ดังนั้นใช้น้อย ๆ ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปก่อนจะปลอดภัยต่อผิวหน้าที่สุด นอกจากนี้ Retacnyl นั้นออกฤทธิ์ในการดันสิวให้ออกมาในช่วงเดือนแรกที่ใช้ ฉะนั้นคุณผู้ชายที่เพิ่งเคยลองยาแต้มสิวเป็นครั้งแรกอย่าเพิ่งตกใจ ให้อดทนใช้จนกว่าสิวจะค่อย ๆ หายไป
Differin
ส่วนผสมหลัก ๆ ของ ยี่ห้อนี้คือ Adapalene เป็นอนุพันธ์วิตามินเอรุ่นใหม่ที่ต่างจาก Tretinoin ที่เป็นรุ่นดั้งเดิม แต่ก็ให้คุณสมบัติในการลดสิวไม่ต่างกัน ทั้งยังมีโอกาสระคายเคืองต่ำกว่าอีกด้วย โดยวิธีการใช้นั้นไม่ต่างจากการใช้ยาแต้มสิวที่มีส่วนผสมของ Tretinoin คือ ทาทั่วใบหน้าวันเว้นวันหรือสัปดาห์ละ 2 ครั้ง และสามารถทาในเวลากลางวันได้
Skinoren
การที่ Skinoren ผลิตยาแต้มสิวที่มีส่วนผสมของ Azelaic Acid นั้นเรียกได้ว่าน่าทึ่งมาก ๆ เพราะเป็นส่วนผสมที่ดีแบบสุด ๆ นอกจากจะรักษาสิวได้แล้วยังสามารถลดเลือนรอยด่างรอยดำได้ดีอีกด้วย ที่สำคัญยังสามารถผลัดเซลล์ผิวให้ไม่มีการอุดตันได้อีก เป็นส่วนผสมที่ช่วยรักษาปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวได้ถึง 3 ใน 4 เลย สำหรับมือใหม่ที่ต้องการใช้ผลิตภัณฑ์นี้ให้ลองใช้อาทิตย์ละ 2 – 3 ครั้งก่อน โดยทาให้ทั่ว ๆ ใบหน้า ไม่ต้องแต้มทีละจุด และให้ทาเช้า – เย็นได้เลย แต่ต่อให้สามารถใช้บ่อยครั้งกว่ายี่ห้ออื่น ๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีความอ่อนโยน ขึ้นชื่อว่ายาแต้มสิวล้วนเสี่ยงต่อการระคายเคืองแน่นอน คนที่ใช้เป็นครั้งแรกอาจรู้สึกคันยิบ ๆ ที่ใบหน้า แนะนำว่าให้เริ่มใช้ทีละน้อยหรือวันละครั้งก่อนจะดีกว่า
Clindalin
สำหรับยาแต้มสิวปฏิชีวนะตัวนี้โดดเด่นในเรื่องของการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียจนถึงขั้นสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้เลย เพราะมี Clindamycin เป็นส่วนผสม เป็นยาแต้มสิวที่ช่วยแก้ปัญหาปัจจัยการเกิดสิวได้ถึง 2 ใน 4 แม้จะไม่ได้มีส่วนช่วยลดเลือนจุดด่างดำด้วยก็ตาม แต่ก็เป็นอีกตัวที่เหมาะกับผู้ที่กลัวการแพ้แบบสุด ๆ เพราะเป็นยี่ห้อที่ใช้แล้วไม่แสบและไม่มีการระคายเคือง โดยให้แต้มบริเวณที่สิวมักขึ้นบ่อย ๆ ทั้งเช้าและเย็น ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ควรจะใช้อย่างต่อเนื่องเกิน 3 – 4 เดือน เนื่องจาก Clindamycin เป็นส่วนผสมที่เชื้อแบคทีเรียสามารถเรียนรู้ที่จะเอาชีวิตรอดจนไม่สามารถฆ่าพวกมันได้ ดังนั้นหากครบกำหนดเวลาที่ต้องใช้แล้วก็ควรจะหยุดทันที
การใช้ ยาแต้มสิว เป็นเพียงหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ปัญหาสิวหรือสิวอักเสบลดลง ซึ่งต้องใช้ความอดทนในการรอดูผลลัพธ์สูงมาก ๆ เพราะต่อให้ยี่ห้อไหนมีส่วนผสมที่แรงเพียงใดแต่ก็ยังต้องใช้เวลา และตัวไหนที่รักษาคนอื่น ๆ ให้หายเป็นสิวได้ไม่ได้แปลว่าจะใช้กับตัวเราแล้วได้ผลเหมือนกันเสมอไป เพราะคนเรามีสภาพผิวหน้าที่ทนหรือแพ้ต่อสารต่าง ๆ ต่างกัน ดังนั้นให้ค่อย ๆ ทดลองใช้ก่อน หากไม่ดีขึ้นหรือแย่ลงก็ควรจะหยุดใช้ทันที
อ่านบทความ 8 อาหารเสริมโพแทสเซียม ที่ผู้ชายควรกิน
เครดิต www.shopee.com