หลาย ๆ คนอาจคุ้นเคยกันดีกับคำว่า “วัยทอง” โดยเฉพาะคุณสุภาพสตรีที่เข้าใจดีกว่าใคร ๆ ว่าการมีอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ และถูกมองว่ายิ่งอายุเยอะยิ่งเรื่องเยอะนั้นเป็นยังไง แต่ทางฝ่ายชายล่ะจะเป็นอย่างไรบ้าง เพราะผู้ชายเองเมื่อถึงเวลาหนึ่งก็ต้องเข้าสู่วัยทองเช่นกัน แต่จะมีอาการเหมือนกับฝั่งของผู้หญิงไหม มาดูกันเลยดีกว่าว่า ผู้ชายวัยทอง นั้นเป็นอย่างไรบ้าง
เรื่องต้องรู้ของ ผู้ชายวัยทอง
วัยทองหรือ Golden age หมายถึง วัยแห่งความสำเร็จในชีวิตการงาน แต่ขณะเดียวกันวัยนี้ก็มีทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ถูกบั่นทอนลงตามไปด้วย ในส่วนของผู้ชายเมื่อระดับฮอร์โมนเพศชายที่เรียกว่าเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ลดลงตามวัยที่เพิ่มมากขึ้น จะทำให้ผู้ชายเข้าสู่อาการวัยทองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเทสโทสเตอโรนเป็นฮอร์โมนหลัก ๆ ที่ช่วยกระตุ้นลักษณะความเป็นเพศชาย โดยมีบทบาทเกี่ยวกับระบบการสืบพันธุ์และระบบอื่น ๆ ในร่างกาย ทั้งการสร้างกล้ามเนื้อ เผาผลาญไขมัน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง และสร้างความแข็งแรงให้กับโครงสร้างกระดูก ดังนั้นเมื่ออายุ 45 ปีขึ้นไปฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่เริ่มลดลงจึงทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายมากมาย และส่งผลไปถึงสภาพจิตใจด้วยนั่นเอง
อาการของ ผู้ชายวัยทอง
ผู้ชายวัยทอง มีอาการไม่ชัดเจนเท่ากับผู้หญิงที่มีวัยทอง แต่ก็มีอาการที่ให้พอสังเกตได้ แบ่งออกเป็น 2 ด้าน ดังนี้
1.อาการทางด้านร่างกาย
ผู้ชายที่เข้าสู่วัยทองจะมีอาการอ่อนเพลีย เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว มีเหงื่อออกเยอะกว่าปกติ นอนไม่ค่อยหลับ พละกำลังลดลง รู้สึกเบื่ออาหาร เริ่มปวดเมื่อยตามตัวโดยไม่มีสาเหตุ ไม่กระฉับกระเฉง กล้ามเนื้อต่าง ๆ ลดขนาดลง แต่กลับลงพุงง่ายขึ้น รวมถึงหย่อนสมรรถภาพทางเพศลงด้วย
2.อาการทางด้านจิตใจ
คุณผู้ชายจะเริ่มรู้สึกเบื่อหน่าย ไม่มีแรงจูงใจในการทำสิ่งต่าง ๆ เป้าหมายในชีวิตเปลี่ยนไป มีความเศร้า เหงาใจ เครียด หงุดหงิดง่าย โกรธง่าย ฉุนเฉียว เฉื่อยชา ขี้บ่นมากขึ้น ขี้น้อยใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เริ่มไม่อยากไปไหน อยากอยู่คนเดียว นอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท ตื่นมาไม่สดชื่น ขาดสมาธิในการทำงาน ความจำในสิ่งต่าง ๆ ลดลง โดยเฉพาะความจำระยะสั้น และมีความต้องการทางเพศลดลง
การรับมือกับวัยทอง
คุณผู้ชายควรจะดูแลตัวเองตั้งแต่เริ่มเข้าสู่อายุ 40 ปี เพื่อจะได้รับมือกับอาการวัยทองได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะได้ไม่มีอาการทางด้านร่างกายหรือจิตใจมากนัก ซึ่งควรจะประพฤติและปฏิบัติตัวดังนี้
1.ออกกำลังกาย
เนื่องจากผู้ชายวัยทองจะมีมวลกล้ามเนื้อลดลง อ่อนเพลียง่าย และมักจะปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 - 4 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อมัดใหญ่และทำให้หัวใจแข็งแรง
2.อาหาร
อาหารเป็นปัจจัยหลัก ๆ ถึง 80 % ที่ทำให้สุขภาพร่างกายดีขึ้นหรือแย่ลงได้ เมื่อคุณผู้ชายเข้าสู่วัยทองจึงต้องเลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่ช่วยบำรุงฮอร์โมนเพศ เช่น ปลาทูน่า ปลาแซลมอน ไข่แดง อะโวคาโด กะหล่ำปลี เป็นต้น เพื่อที่ร่างกายจะยังคงฟิตปั๋งอยู่ในระดับหนึ่ง
3.อารมณ์
ผู้ชายวัยทองกับอารมณ์ที่ขึ้น ๆ ลง ๆ เป็นของคู่กัน ฉะนั้นจึงต้องยอมรับสภาพการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ให้ได้ พยายามคิดบวก หมั่นทำจิตใจให้แจ่มใส เพื่อลดสภาวะตึงเครียดให้กับตัวเอง และจะได้ไม่แสดงอารมณ์หงุดหงิดไปยังคนรอบตัว
ปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการวัยทองก่อนวัย
การเป็นวัยทองไม่จำเป็นจะต้องเข้าสู่อายุ 45 ปีอย่างเดียวเท่านั้น คุณผู้ชายสามารถเกิดอาการวัยทองก่อนวัยอันควรได้หากมีพฤติกรรมที่เอื้อต่อการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งเป็นได้ทั้งจากกรรมพันธุ์ การทำงานหักโหม พักผ่อนไม่เพียงพอ มีความเครียดอยู่เสมอ การดื่มเหล้า สูบบุหรี่ และการใช้ยาบางประเภทติด ๆ กัน ซึ่งทั้งหมดนี้มีส่วนทำให้ชีวิตหลังอายุ 45 ปีย่ำแย่ลงด้วย
อาการวัยทองเป็นความจริงที่สุภาพบุรุษทั้งหลายควรจะต้องยอมรับ ซึ่งใครจะแสดงอาการมากน้อยนั้นต่าง ๆ กันไปตามการดูแลตัวเองและฮอร์โมนของแต่ละคน ผู้ชายวัยทองจึงไม่ควรกังวลจนเกินไปเพราะจะยิ่งทำให้อาการหนัก แต่ควรจะค่อย ๆ รับมือและทำความเข้าใจกับการเปลี่ยนแปลง
เครดิตรูปภาพทั้งหมด : https://pixabay.com/th/
อ่านบทความ 7 วิธีลดอาการ ‘หลั่งเร็ว’ ของหนุ่ม ๆ มีวิธีไหนบ้างมาดูกันเลย