เมื่อคุณต้องจ้องหน้าจอนาน ๆ ทุก ๆ วันก็คงต้องพบกับปัญหา ตาแห้ง อย่างแน่นอน เนื่องจากดวงตาไม่สามารถผลิตน้ำหล่อเลี้ยงผิวตาได้ทัน ซึ่งภาวะตาแห้งนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน หากปล่อยให้มีอาการตาแห้งบ่อย ๆ ก็เสี่ยงทำให้เป็นแผลที่กระจกตาหรือถึงขั้นเกิดการติดเชื้อทำให้ตาบอดได้
สาเหตุของอาการ ตาแห้ง
- ภาวะตาแห้งนั้นเกิดขึ้นได้หลาย ๆ ปัจจัย โดยส่วนใหญ่เป็นเพราะใช้เวลาจ้องมองอะไรนาน ๆ โดยไม่พักสายตาเลย เช่น อ่านหนังสือ เล่นมือถือ ใช้คอมพิวเตอร์ ฯลฯ
- การใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลานานกว่า 4 ชั่วโมงก็ทำให้มีอาการตาแห้งได้ แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วสามารถใส่ได้ถึง 8 ชั่วโมงก็ตาม โดยเฉพาะการใส่คอนแทคเลนส์ที่ไม่ได้มาตรฐานก็จะยิ่งทำให้ตาแห้งไวมากกว่าคอนแทคเลนส์ที่มีค่าอมน้ำสูง
- สภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย เช่น มีฝุ่นละออง หมอก ควันเยอะ อยู่ในที่ที่มีลมพัดแรง หรืออยู่ในห้องปรับอากาศที่มีอากาศที่แห้ง
- การทำเลสิกหรือได้รับการผ่าตัดดวงตา
- มีโรคบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคภูมิแพ้
- การใช้ยาบางตัวก็ทำให้เกิดอาการตาแห้งได้ เช่น ยาแก้แพ้ ยาคลายเครียด ยารักษาความดันโลหิตสูง เป็นต้น
- อายุที่เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะผู้หญิงสูงวัยจะคัดหลั่งสารต่าง ๆ ในร่างกายได้น้อยลง รวมถึงลดการผลิตน้ำตาลงด้วย จึงทำให้ตาแห้งได้ง่ายนั่นเอง
วิธีแก้อาการ ตาแห้ง
1.หยอดน้ำตาเทียม
วิธีพื้นฐานและได้ผลทันทีก็คือการหยอดน้ำตาเทียม เพราะน้ำตาเทียมผลิตมาเพื่อใช้หล่อลื่นและให้ความชุ่มชื้นกับผู้ที่มีดวงตาแห้งโดยตรง จึงมีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับน้ำตาธรรมชาติมากที่สุด แต่ก็มีข้อควรระวังคือพยายามอย่าใช้น้ำตาเทียมที่มีสารกันบูดมากเกินไป หากคุณเป็นคนที่มีตาแห้งมากและจำเป็นต้องหยอดน้ำตาเทียมมากกว่าวันละ 5 ครั้งก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับน้ำยาหยอดตาเทียมแบบไม่มีสารกันบูดที่ใช้ได้ภายใน 16 ชั่วโมงแทน เพื่อดวงตาจะได้ปลอดภัยมากขึ้น
2.กะพริบตาบ่อย ๆ
เนื่องจากตาแห้งมีสาเหตุมาจากการใช้สายตาจดจ้องอะไรเป็นระยะเวลานาน ๆ จึงทำให้น้ำตาไม่สามารถลงมาเคลือบบริเวณดวงตาได้มากเท่าที่ควร การกะพริบตาบ่อย ๆ จะช่วยให้น้ำตาธรรมชาติมาเคลือบดวงตาได้นั่นเอง
3.งดใส่คอนแทคเลนส์
การใส่คอนแทคเลนส์บ่อย ๆ แน่นอนว่ามีความเสี่ยงในการทำให้ตาแห้งสูง หากยิ่งใส่ทุกวันก็เลี่ยงทำให้ดวงตาไม่แห้งไม่ได้ หากจำเป็นต้องใช้สายตาทั้งวันทางที่ดีควรจะตัดแว่นสายตามาใส่จะดีต่อดวงตามากกว่า อาจจะเลือกแว่นตาที่มีลักษณะเป็นแฟชั่นหน่อย ๆ เพื่อความสวยงาม แม้จะยังไม่ชินในระยะแรกแต่ก็ปลอดภัยกับดวงตาในระยะยาวมากกว่า
4.สวมแว่นตากันลมและกันแดด
หากคุณเป็นคนที่ตาแห้งง่ายเพียงแค่นั่งตากลมแอร์เย็น ๆ ก็ทำให้ตาแห้งได้แล้ว การเลือกตัดแว่นชนิดพิเศษที่ครอบทั้งดวงตาและกันลมได้จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสุด ๆ หรือตัดแว่นกันแดดมาเพื่อป้องกันดวงตากระทบกับแดดจ้าโดยตรงก็จะดีกว่า เพราะหากจะให้หยอดน้ำตาเทียมทั้งวันก็อาจไม่สะดวกมากพอ การเลือกแว่นตาที่มาเพื่อแก้ปัญหาตาแห้งโดยเฉพาะจึงถือว่าไม่เกินเลยแต่อย่างใด
5.พักสายตา
ดวงตาเป็นอวัยวะอีกหนึ่งส่วนของร่างกายที่เมื่อทำงานหนักแล้วก็ต้องการการพักผ่อน หากลองหลับตาลงสัก 5 นาทีเมื่อรู้สึกเมื่อล้าบริเวณดวงตาก็จะทำให้ดวงตาใช้งานเบาลง และผ่อนคลายมากขึ้น สำหรับคนตาแห้งหากทำเช่นนี้เป็นประจำก็จะช่วยลดปัญหาตาแห้งลงได้เช่นกัน
6.เพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ
การที่ตาแห้งส่วนหนึ่งนั้นมาจากสภาพอากาศที่แห้งหรือในช่วงฤดูหนาว ทางออกอีกทางที่จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการช่วยแก้ปัญหาตาแห้งก็คือหาเครื่องพ่นไอน้ำมาเติมความชุ่มชื้นให้กับอากาศบริเวณที่อยู่อาศัยหรือที่ทำงาน
7.การอุดรูระบายน้ำตา
หากคุณเป็นผู้ที่มีปัญหาตาแห้งเข้าขั้นรุนแรงควรไปพบกับจักษุแพทย์เพื่อรับการอุดรูระบายน้ำตา ซึ่งเปรียบเสมือนการสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำไว้ที่ดวงตา ทำให้น้ำตาสามารถหล่อเลี้ยงตาได้นาน ๆ โดยไม่ปล่อยให้ไหลทิ้งไป ซึ่งก็มีทั้งอุดรูระบายน้ำตาแบบชั่วคราวและแบบถาวร ทางที่ดีควรให้จักษุแพทย์เป็นผู้แนะนำในการรักษาจะดีที่สุด
ปัญหาตาแห้ง ที่ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่ก็ไม่ได้เล็กเลยหากปล่อยเอาไว้นานเกินไป แต่ไม่ว่าอย่างไรทุก ๆ ปัญหาล้วนมีทางออกเสมอ ก็หวังว่าคุณผู้อ่านที่เริ่มมีอาการระคายเคืองตา และคิดว่าตัวเองอาจจะมีอาการตาแห้งก็สามารถนำวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้ไปปรับใช้ได้ตามความสะดวก
อ่านบทความ นิ้วล็อค เกิดจากอะไรถึงเป็นโรคสุดฮิตของคนทำงาน
เครดิตรูปภาพทั้งหมด : www.pixabay.com