กลิ่นปากไม่ใช่เรื่องตลก ยิ่ง มีกลิ่นปาก รุนแรงยิ่งไม่ใช่เรื่องที่สนุกเลยสำหรับคนที่กำลังเป็นและคนรอบข้าง เพราะนอกจากจะทำให้หมดสง่าราศีแล้วก็ยังทำให้ระดับความสัมพันธ์ลดลงอีกด้วย เพราะไม่มีใครอยากจะร่วมพูดคุยกับคนที่มีกลิ่นปาก ดังนั้นหากใครกำลังประสบปัญหานี้อยู่ต้องรีบอ่านกันก่อนเลย
กลิ่นปากเกิดจากอะไร
สำหรับใครที่มีกลิ่นปากอาจจะกำลังตั้งคำถามว่ากลิ่นมาจากไหน มาได้ยังไง ซึ่งการที่จะมีกลิ่นปากได้นั้นเกิดจากเชื้อแบคทีเรียกลุ่มหนึ่งที่อยู่ในช่องปากไปทำการย่อยสลายสารประกอบประเภทโปรตีนที่ตกค้างอยู่ในช่องปากและลำคอ ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นในช่องปากขึ้น และเชื้อแบคทีเรียนี้ก็เกิดขึ้นมาจากเศษอาหารที่ติดตามซอกฟัน การรับประทานอาหารบางชนิด พฤติกรรมการสูบบุหรี่ ใส่ฟันปลอมแล้วไม่รักษาความสะอาด การประกอบอาชีพที่ต้องใช้เสียงพูดบ่อย ๆ การมีฟันผุ มีน้ำลายบูดในตอนเช้า ท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอเหม็นเปรี้ยว แม้แต่การดื่มน้ำน้อยและมีความเครียดสูงก็ทำให้มีกลิ่นปากได้ เรียกได้ว่ามีโอกาสเกิดกลิ่นปากขึ้นตั้งแต่ลืมตาตื่นนอนแล้ว โดยที่ตำแหน่งที่ทำให้มีกลิ่นปากออกมามากที่สุดก็คือบริเวณโคนลิ้นด้านใน
วิธีดับกลิ่นปาก
หากไม่อยากเป็นคนที่มีกลิ่นปากอบอวลก็ควรจะดูแลสุขภาพช่องปากและฟันให้สะอาดและแข็งแรงอยู่เสมอ โดยสามารถทำตามวิธีต่าง ๆ ได้ดังต่อไปนี้
1.แปรงฟันหรือบ้วนปากทุกครั้งหลังรับประทานอาหารเสร็จ
ตามปกติแล้วคนเรามักจะแปรงฟันเพียง 2 เวลาคือก่อนนอนกับหลังตื่นนอน แต่สำหรับคนที่มีกลิ่นปากมากกว่าคนทั่ว ๆ ไปนั้นอาจจะต้องเพิ่มเวลาในการแปรงฟันเป็นทุก ๆ ครั้งหลังรับประทานอาหารเสร็จเพิ่มเติมอีกด้วย เพื่อจะได้ช่วยลดกลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์ให้ไม่ส่งกลิ่นออกมา หรือหากไม่สะดวกแปรงฟันก็ยังสามารถบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากก่อนได้ ซึ่งวิธีนี้ถือเป็นขั้นตอนเบื้องต้นและขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยลดกลิ่นปากลงได้ดีที่สุด
2.ดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้น
การดื่มน้ำเปล่าจะช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปากลงได้ เพราะจะช่วยชะล้างเศษอาหาร รวมทั้งเชื้อแบคทีเรียบางส่วนให้ลงไปในกระเพาะอาหารพร้อม ๆ กับน้ำดื่ม นอกจากนี้ก็ยังทำให้ปากชุ่มชื้นมากขึ้นด้วย วิธีนี้จึงจัดเป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุดในการดับกลิ่นปาก หากไม่สะดวกแปรงฟันหรือบ้วนปากก็ต้องรีบหาน้ำดื่มมาดื่มโดยไว
3.รับประทานอาหารที่มีเส้นใย
ผักและผลไม้ที่มีเส้นใยไฟเบอร์สูง ๆ จะช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายให้ดีขึ้น เนื่องจากการที่บางคนมีกลิ่นปากแรง ๆ นั้นมาจากของเสียที่สะสมอยู่ในร่างกาย หากเลือกรับประทานอาหารที่กระตุ้นระบบขับถ่ายได้ก็จะทำให้ของเสียถูกขับออกไปผ่านอุจจาระนั่นเอง
4.เลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีกลิ่นแรง
อาหารแต่ละชนิดส่งผลต่อกลิ่นปากได้ และบางอย่างถึงขั้นที่แปรงฟันข้ามวันไปแล้วกลิ่นก็ยังคงอยู่ ดังนั้นหากไม่อยากปากเหม็นหรือมีกลิ่นปากในวันสำคัญ ๆ ก็ต้องเลือกชนิดอาหารที่จะนำเข้าปากอยู่ตลอดเวลา อย่างกระเทียม ต้นหอม ผลิตภัณฑ์จากนม ปลาทูน่ากระป๋อง ฯลฯ อาหารจำพวกนี้จะทำให้มีกลิ่นปากได้ง่าย จึงจำเป็นต้องเลี่ยงการรับประทานอาหารกลิ่นแรง ๆ
5.ไม่สูบบุหรี่
การสูบบุหรี่นำมาทั้งโรคร้ายและสร้างความรำคาญให้กับคนรอบตัว รวมถึงทำให้มีกลิ่นปากติดตัวไปในยะระยาวอีกด้วย เนื่องจากบุหรี่ทำให้ปริมาณน้ำลายในปากลดประสิทธิภาพลง และทำให้ช่องปากมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น จึงก่อให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อในช่องปาก มีการตายของเซลล์บางส่วน ทำให้จำนวนเชื้อแบคทีเรียในปากเพิ่มขึ้น และกลายเป็นเหตุให้มีกลิ่นปากนั่นเอง
ถ้าหากใครที่พยายามปรับปรุงและดูแลสุขภาพปากตามที่ได้บอกไว้แล้วแต่ยังคงมีกลิ่นปากอยู่ ควรจะต้องนำปัญหานี้ปรึกษากับทันตแพทย์เพราะอาจหมายถึงการมีกลิ่นปากอย่างเรื้อรัง ควรจะเข้าพบแพทย์เพื่อทำการซักประวัติ ทั้งในเรื่องของโรคประจำตัวและการดูแลอนามัยภายในช่องปากเพื่อตรวจหาสาเหตุของโรคและวิธีแก้ไขต่อไป
เครดิตรูปภาพทั้งหมด : https://pixabay.com/th/
อ่านบทความ มะเร็งปอด ใครๆก็เป็นได้ อีกหนึ่งภัยร้ายที่ไม่ได้มาจากการสูบบุหรี่