เมื่อพูดถึง มะเร็งปอด ย่อมเป็นที่แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่จะนึกถึงการสูบบุหรี่ เนื่องจากอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยเป็นมะเร็งปอดนั้นมีสาเหตุมาจากควันบุหรี่ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม แต่รู้ไหมว่าต่อให้ไม่ได้เป็นคนสูบบุหรี่หรืออยู่ใกล้ผู้ที่สูบบุหรี่ก็สามารถเป็นมะเร็งปอดได้
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เป็น มะเร็งปอด
เมื่อ มะเร็งปอด ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะสูบบุหรี่เพียงอย่างเดียว แล้วจะมีสาเหตุอะไรที่ทำให้เป็นมะเร็งปอดได้บ้างนั้น มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1.การสูบบุหรี่
อย่างแรกแน่นอนว่าปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดมะเร็งปอดก็คือการสูบบุหรี่ รวมถึงมะเร็งชนิดอื่น ๆ ก็เกิดขึ้นมาเพราะควันบุหรี่ด้วยเช่นกัน แต่ผู้ที่สูบบุหรี่จะมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 10 เท่า เรียกได้ว่าเป็นตัวเลขที่น่าหวั่นใจ
2.ควันบุหรี่มือสอง
สำหรับผู้ที่ไม่ได้สูบบุหรี่แต่ได้รับควันบุหรี่มือสองหรือมือสามจากการสูดหายใจเข้าไปจะทำให้มีสารพิษตกค้างในร่างกาย ซึ่งก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุหลอดลมและถุงลมจนนำไปสู่การอักเสบเรื้อรัง และทำให้ปอดเสื่อมสมรรถภาพ เป็นสาเหตุสำคัญของกลุ่มโรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง หรือแม้แต่โรคมะเร็งปอด
3.การทำงานในอุตสาหกรรมที่มีสารก่อมะเร็ง
ผู้ที่ทำงานในโรงงานใหญ่ ๆ ที่มีสารก่อมะเร็ง เช่น โครเมียม ไรแย่หิน แร่เรดอน นิกเกิล เป็นต้น ก็มีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งแม้ว่าไม่ได้สูบบุหรี่เลยก็ตาม ซึ่งอุตสาหกรรมผลิตเคมีภัณฑ์ อิเล็กทรอนิกส์ สารกำจัดศัตรูพืช พลาสติก การฟอกย้อมสีผ้า การชุบโลหะ การผลิตแบตเตอรี่ การผลิตกระเบื้อง ฯลฯ อุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่กล่าวมานี้ทำให้ต้องสัมผัสและใกล้ชิดกับสารก่อมะเร็งอยู่เป็นประจำ จึงเป็นงานที่มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดสูงมากกว่างานอื่น ๆ
4.สภาวะแวดล้อมที่มีฝุ่นละอองพิษ
จากการศึกษาพบว่าฝุ่น PM 2.5 ทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปอดได้มากถึง 1 - 1.4 เท่า ซึ่งถือว่ามีความร้ายแรงเทียบเท่ากับการสูบบุหรี่ โดยเฉพาะช่วงที่ฝุ่น PM 2.5 ระบาดหนักนั้นพบผู้ป่วยเป็นมะเร็งปอดเพิ่มขึ้น และมีอาการกำเริบมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันนี้ฝุ่นละอองร้ายแต่เป็นภัยอย่างเงียบ ๆ ก็ยังวนเวียนอยู่รอบตัว ทั้งเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ หรือแม้แต่เชียงใหม่ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติก็ไม่เว้น
5.พันธุกรรม
โรคมะเร็งปอดไม่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้โดยตรง แต่หากมีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นมะเร็งปอดตั้งแต่อายุน้อย ๆ สมาชิกในครอบครัวก็จะมีความเสี่ยงที่จะเป็นได้สูงขึ้นด้วย โดยถ้าหากสูบบุหรี่ รับบุหรี่มือสอง หรือทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีสารก่อมะเร็ง ก็จะทำให้มีโอกาสเป็นโรคมะเร็งปอดได้ง่ายกว่าบุคคลทั่วไป
วิธีป้องกันไม่ให้เป็นมะเร็งปอด
ในเมื่อมะเร็งปอดเป็นโรคร้ายที่เกิดขึ้นได้แม้จะเป็นผู้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบุหรี่ก็ตาม ดังนั้นจึงควรหาทางป้องกันตัวเองไม่ให้ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอด หรือต้องหาวิธีป้องกันเมื่อต้องเผชิญอยู่ในสภาวะเสี่ยง ดังต่อไปนี้
1.หยุดสูบบุหรี่
หลังจากที่ได้ทราบกันแล้วว่าพิษจากบุหรี่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอดและมะเร็งอื่น ๆ จนคร่าชีวิตผู้คนมาแล้วนับไม่ถ้วน ดังนั้นทางเดียวที่จะป้องกันไม่ให้เป็นโรคนี้ได้อย่างชัดเจนที่สุดก็คือการไม่ยุ่งเกี่ยวกับบุหรี่
2.ไม่อยู่ใกล้คนสูบบุหรี่
การรับควันบุหรี่มือสองต่อจากผู้ที่สูบบุหรี่ทำให้เป็นโรคมะเร็งปอดได้ไม่ต่างจากผู้สูบ ทางที่ดีควรจะเลี่ยงไปให้ห่างจากสภาพแวดล้อมแบบนี้ หรือแสดงความขอร้องหากต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันกับคนสูบบุหรี่เป็นประจำ อาจหาที่เฉพาะสำหรับสูบบุหรี่ไว้ให้ เพื่อที่ตัวเราเองจะได้ไม่รับเคราะห์ในทุกวัน
3.ป้องกันตัวเองขั้นสูงสุดในสถานที่ทำงาน
หากใครที่ต้องทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความสุ่มเสี่ยงต่อสารเคมีอันตราย จะต้องสวมใส่ชุดป้องกันตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเพื่อความปลอดภัย และหมั่นทำความสะอาดร่างกายอย่างพิถีพิถันเพื่อล้างคราบสารปนเปื้อนออกให้หมด
4.สวมหน้ากากกันฝุ่น
ถ้าหากในชีวิตประจำวันไม่สามารถเลี่ยงการปะทะละอองฝุ่น PM 2.5 ได้ก็จะต้องสวมหน้ากากอนามัยสำหรับป้องกันฝุ่นละอองตัวนี้โดยเฉพาะอย่างสม่ำเสมอ เพื่อจะได้ไม่สูดเอา PM 2.5 เข้าไปจนเกิดการสะสม
แม้โรคมะเร็งปอดจะไม่ได้เกิดจากการสูบบุหรี่เพียงอย่างเดียว แต่อย่าลืมว่าควันบุหรี่ก็คือตัวต้นเหตุหลักที่ทำให้มะเร็งร้ายมาเยือนแบบเงียบ ๆ ฉะนั้นจะต้องใช้ชีวิตแบบไม่ประมาทไม่ว่าจะเป็นการงดสูบบุหรี่หรือป้องกันตนเองด้วยวิธีอื่น ๆ ก็ตาม
อ่านบทความ โรคโลหิตจาง คืออะไร มีสาเหตุและแนวทางการรักษาอย่างไรบ้าง
Credit : ต้นไม้, สัตว์เลี้ยง, ที่พัก, เสริมสวย, แฟชั่นผู้หญิง, เครื่องสำอาง